วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2559

Hélènā Martinz [ ผ่าน ]

APPLICATION

Illustration : Seal
Creator Au : EasT

“ที่บ้านไม่มีกระจกเหรอคะ? มั่นหน้าจังเลย อุ๊ย ขออภัยค่ะ ดิฉันพูดตรงเกินไปหน่อย

บท :: คางามิ ไทกะ ( Kagami Taiga)

ชื่อ – นามสกุล :: เฮเลน่า มาร์ติส ( Hélènā Martinz)
ความหมาย :: เฮเลน่า หรือ เฮเลน หญิงสาวที่เป็นชนวนเหตุสงครามกรุงทรอย เพราะความงามของหล่อนอันเป็นที่สุดในโลก มาร์ติส นามสกุลยอดนิยมของชาวละตินอเมริกา และชาวสเปน มาติส เมื่อแยกคำออกจะได้คำว่า มาร์ ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งสงคราม 

ชื่อเล่น :: เฮเลน ( Helen )

สัญชาติ :: ฝรั่งเศส - อเมริกา

อายุ :: 18 ปี

ลักษณะรูปร่างของตัวละคร :: เฮเลน่า มาร์ติส หญิงสาวรูปงามสมกับชื่อของเธอ นัยย์ตาสีมรกตคู่งามประดับบนใบหน้ารูปไข่มนเรียวสวย รับกับจมูกโด่งรั้นเชิดนิดๆตามประสาคนมั่นใจในตัวเอง คิ้วโก่งราวกับพระจันทร์เสี้ยวสวยได้โดยไม่ต้องใช้ดินสอเขียนคิ้ว ริมฝีปากบางสีเชอรี่อวบอิ่ม ดูนุ่มนิ่มน่าสัมผัส เรือนผมสีบลอนด์เทาที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีคลอเคลียสะโพกบาง ผิวพรรณของเธอขาวสะอาดตามแบบฉบับชาวยุโรปทั่วไป และเนียนนุ่มจากการดูแลตัวเอง เฮเลนมีทรวดทรงที่ผู้หญิงทั่วโลกใฝ่หา 35 - 23 - 34  ( หน้าอก - เอว - สะโพก ) รวมทั้งเธอค่อนข้างดูแลเรื่องน้ำหนักและออกกำลังกายเป็นประจำหน้าท้องของเธอจึงมีpackนิดๆพอเย้ายวน 

ส่วนสูง :: 166 cm.

น้ำหนัก :: 48 kg.

ลักษณะนิสัย :: เฮเลน่า มาร์ติส หญิงสาวที่มีรูปลักษณ์ภายนอกราวเทพธิดาแสนไร้เดียงสา แต่ขออภัยอย่างสุดซึ้ง เฮเลน่าเป็นผู้หญิงปากจัดมากถึงมากที่สุดหล่อนสามารถจิกกัดทุกคนในระยะร้อยเมตรได้หมด คำพูดของหล่อนนั้นสุภาพก็จริงเพราะเธอมีกิริยามารยาทเรียบร้อยแต่ว่าคำพูดแต่ล่ะคำเหมือนทำฟาร์มสุนัขไว้ในปาก เฮเลนรับผิดชอลคำพูดของตนเองโดยการปลอบใจ หรือพูดให้กำลังใจ แต่ยังคงความจิกกัดอยู่วันยังค่ำ ตระกูลมาร์ติสของหล่อนเป็นตระกูลใหญ่ มีอำนาจอยู่ 20% ของประเทศอเมริกา เฮเลนจึงมีนิสัยบ้าอำนาจหล่อยไม่สนใจว่าใครจะว่าอย่างไร อำนาจที่มีก็ต้องใช้ให้คุ้มสิ ถูกมั้ย? เฮเลนฉลาดแกมโกง หล่อนมักจะหาวิธีการที่นำตัวเองไปสู่จุดสูงสุดได้โดยกลโกงเล็กๆน้อยๆ เฮเลน เอาตัวรอดเก่ง ในสถานการณ์ที่เสี่ยงตาย อย่างเช่นครั้งหนึ่งเธอเคยโดนลักพาตัว แต่เฮเลนที่ได้มีสติ คิดหาทางเอาตัวรอดหรือความช่วยเหลือได้ในที่สุด หล่อนรักศักดิ์ศรีมากถึงมากที่สุดเฮเลนรักการแข่งขัน ความท้าทาย มันทำให้เธอพิสูจน์ตัวเองได้ และด้วยเกียรติของเฮเลน่า มาร์ติสเธอไม่มีวันแพ้อย่างเด็ดขาด! หล่อนชอบเอาชนะผู้อื่น เฮเลน่ารักความสมบูรณ์แบบทุกอย่าง ในหัวของเธอจึงมีแต่คำว่าที่หนึ่ง ทั้งนี้เพราะความกดดันจากครอบครัวที่หล่อหลอมให้เธอเป็นแบบนี้ทั้งที่แต่ก่อน เฮเลน่านิสัยดีราวกับนางฟ้าตัวน้อย แม้เฮเลน่าจะเป็นผู้หญิงที่นิสัยเลวร้ายข้อดีของเธอก็พอมีอยู่บ้าง เฮเลน่ารักพวกพ้องของตัวเอง ไม่ยอมให้ใครมารังแก เป็นผู้หญิงที่มี ความมั่นใจในตัวเองสูง และหน้าหนา ทั้งนี้มันทำให้งานของเธอง่ายเพราะเธอไม่มีความอาย ลึกๆแล้วเฮเลน่าเป็นคนที่แคร์คนอื่นพอสมควร บางครั้งที่เธอลั่นวาจาไม่ดีออกไป เธอรู้สึกผิดเหมือนกัน แต่ทำไงได้มันกลายเป็นนิสัยของเธอไปแล้ว หล่อนตรงต่อเวลาและไม่เคยผิดคำพูด ผู้ดีตามปกติแล้วการตรงต่อเวลาเป็นเรื่องที่สมควรพึงกระทำ พวกเขาจะไม่ปล่อยให้เกิดการรอคอยกับบุคคลที่นัดไว้ มันเสียมารยาทมากหากเป็นแบบนั้น เฮเลน่าจะมาก่อนเวลานัดสิบถึงยี่สิบนาทีเพื่อไม่ให้เกิดการรอคอยอันเป็นการเสียมารยาท เฮเลน่ารักษาคำพูดทุกคำที่เคยพูดไว้ รวมถึงคำสัญญามันทำให้หล่อนเป็นน่าเชื่อถือ มีเครดิตในวงสังคมพอสมควร เฮเลน่าเกลียดคนไร้ประโยชน์หล่อนมักใช้อำนาจกำจัดคนพวกนี้ให้หายไปอย่างเงียบๆ หล่อนมีความทะเยอทะยานสูงต้องการเอาชนะทุกสิ่งทุกอย่าง รวมอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลางคือตัวเองคนเดียว หล่อนมักใช้จิตวิทยาเข้าช่วยงานหลายๆอย่าง เธอเปรียบว่าตัวเองกำลังเล่นหมากรุก เธอคือผู้เล่น ส่วนคนที่เธอกำลังพูดด้วยเป็นเพียงหมากในกระดานของเธอเท่านั้น 

ประวัติ :: ตระกูลมาร์ติส อดีตตระกูลขุนนางเก่าแก่ของอเมริกามีหน้าที่จัดการในส่วน'คลัง' แต่ตระกูลของเธอไม่มีการฉ้อราษฎ์บังหลวงแต่อย่างใด มาร์ติสทำงานอย่างซื่อสัตย์ ทำความดีความชอบไว้มากมาย แม้จะได้ทำงานในส่วนการคลัง ฝีมือการสู้รบถือว่าไม่เป็นสองรองใคร ราวกับเบดิเวียร์ อัศวินโต๊ะกลมที่แสนซื่อสัตย์ และแลนสลอต อัศวินเอกแห่งอาเธอร์ พื้นเพหลังของตระกูลที่ต้องสมบูรณ์แบบทุกอย่าง วัยเด็กของเฮเลนจึงถูกเคี่ยวเข็ญอย่างหนัก เธอต้องเข้าเรียนตั้งแต่อายุสามปี บิดาของเธอเป็นบุตรชายคนที่สามในตระกูลความหวังที่จะได้เป็นผู้นำตระกูลคนต่อไปแทบไม่มี บิดาของเธอทะเยอทะยานอยากมีอำนาจเขาปลูกฝังความบ้าอำนาจของเขามาให้เธอ ชีวิตของเธอเหมือนหุ่นเชิด กลายเป็นเด็กเก็บกด เด็กน้อยแสนไร้เดียงสาหายไปเหลือเพียงตุ๊กตาที่มีชีวิต เฮเลนไม่เคยมีเพื่อนในวัยเดียวกัน มีเพียงแค่คนที่อายุมากกว่าหวังตักตวงผลประโยชน์จากเธอ เฮเลนเริ่มปากร้ายพูดจาไม่ดีขับไล่คนเหล่านั้นออกไปจากชีวิตเธอ มันได้ผล หลังจากนั้นหล่อนมักจะมีคำพูดแสนจิกกัดออกจากปากตลอด เพื่อเป็นเกราะกำแพงป้องกันความเหงาและอ่อนแอที่เธอซ่อนไว้ ผู้อาวุโสในตระกูลแม้จะเห็นความสามารถและอัจฉริยะของเธอที่เกินวัยแต่พวกเขาก็ไม่ยอมรับ เหตุผลแสนงี่เง่าคือเธอเป็นผู้หญิง เฮเลนโกรธมากสักวัน เธอจะรวมอำนาจเข้าที่เธอคนเดียวและกำจัดผู้อาวุโสหัวโบราณคร่ำครึนี่ให้หมด! เฮเลนรอคอยอย่างอดทนและใจเย็นแผนการปฏิวัติตระกูลของเธอดำเนินไปอย่างเงียบเชียบ แต่วันหนึ่งชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไปเพราะไปยุ่งเกี่ยวกับองค์กรหนึ่งเข้า จากที่เอาชีวิตรอดในตระกูลอย่างเดียวไม่พอต้องเอาชีวิตรอดจากการเข่นฆ่าอีก ให้ตายสิ เฮเลนจะเป็นลมค่ะ...

ชอบ :: สงครามจิตวิทยา ; หล่อนฉลาดและเชี่ยวชาญสงครามประสาทแห่งนี้ คำพูดที่แสนยียวนของหล่อน หากควบคุมอารมณ์ไม่ดีก็ตกหลุมพรางที่เธอวางไว้ได้ง่ายๆเลย
           อาหารรสขม ; เฮเลน่าเกลียดของหวานทุกชนิดที่เธอพอรับประทานได้มีแต่โกโก้แท้ ของหวานที่พออนุโลมได้เพียงอย่างเดียว 
           รถยนต์ ; เห็นแบบนี้เธอเป็นพวกชอบรถเหมือนเด็กผู้ชายพอสมควร ของสะสมหลักของหล่อนก็เป็นรถยนต์นี่แหละ ส่วนใหญ่จะเป็น Lamborghini , Rolls-Royce ,Bmw ส่วนใหญ่จะเป็นพวกรถแข่งที่เน้นความเร็วราคาแพงหูฉี่แต่นั่งได้แค่สองคน 


รถของ Bmw รุ่นล่าสุดจะจำหน่ายในปี 2017  ราคาตีเป็นเงินบาทไทยประมาณ 12 ล้านบาท(ขอสักคันได้ไหมคะ อยากได้)

Lamborghini ผลิตฉลองครบรอบร้อนปีผู้ก่อตั้ง(แปลข่าวจากในเว็บไม่ทราบว่าถูกมั้ยนะคะ) มีเพียง 40 คันบนโลก ราคาเริ่มต้นเบาๆอยู่ที่ 75 ล้านบาทไทย



ไม่ชอบ :: ของหวานทุกชนิด ; มีแต่เด็กเท่านั้นแหละที่ชอบ อาหารรสชาติหวานมันไม่น่าอภิรมย์เลยสักนิด สำหรับหล่อน

กลัว :: การอยู่คนเดียวความมืด ; ครั้งหนึ่งหล่อนเคยโดนขังอยู่ในห้องมืด แสนอับคนเดียวตอนโดนลักพาตัว แม้ว่าเธอจะมีสติเเต่อายุของเธอเพียงแค่เจ็ดปีเท่านั้น  วิธีที่จะทำให้เธอหายกลัวได้คือ ดึงเธอเข้ามากอดหรือกุมมือเธอเอาไว้ ให้เธอรู้ว่าเธอไม่ได้อยู่คนเดียวในความมืด 

แพ้ :: - (นางถึกค่ะ แค่กๆ )

ความสามารถพิเศษ :: ขับรถแข่ง ; อนึ่งเธอเป็นคนชอบสะสมรถ เธอชอบขับรถของเธอกินลมชมวิว อวดสายตาชาวบ้าน 
เต้นบัลเล่ต์ ; ถูกเคี่ยวเข็ญมาตั้งแต่วัยเยาว์ว่าต้องเป็นที่หนึ่ง การเต้นบัลเล่ต์ของเธอนับว่าเป็นมืออาชีพคนหนึ่งที่สามารถไปแข่งขันได้ แต่หล่อนไม่ไป เฮเลนอ้างว่ามันเสียเวลากับรถแข่งของเธอ(?)
ขี่ม้า ; เฮเลนเคยเรียนขี่ม้าเพราะโดนบิดาบังคับ แต่เธอก็ต้องขอบคุณเขาที่ทำให้เธอมีทักษะติดตัวมา
เอเป(Épée) ; เฮเลนเป็นถึงอดีตนักกีฬาดาบสากลเก่าของฝรั่งเศส ทักษะดาบของเธอนับว่าไม่เป็นสองรองใคร
Checkmate ; หมากรุกนี่แหละค่ะอยากให้ดู Inter เลยเรียกแบบนี้...



งานอดิเรก :: จิบชายามบ่ายในสวนหลังบ้าน(?)เฮเลนมีเพื่อนเป็นสตรีชั้นสูงไม่น้อย เธอจึงติดมารยาทการดื่มชาทุกๆบ่ายสองมา และถือเป็นงานอดิเรกได้กระมัง? 
เล่นหมากรุก ; ยามมีแขกมาเยี่ยมเยือนถึงที่บ้านหล่อนจะจัดการต้อนรับด้วยหมากรุกเป็นอย่างแรก การจะเเข่งเดินหมากกับเฮเลนบอกได้เลยว่ายากที่จะชนะเธอ

จุดอ่อน ::  พละกำลัง อนึ่งหล่อนเป็นคนแรงน้อยมากการที่กำจัดเธอง่ายๆคือ 'ใช้กำลัง'

จุดแข็ง :: ความยืดหยุ่น ต้องขอบคุณวัยเด็กของเธอที่เคยเรียนบัลเล่ต์มาก่อน อีกทั้งร่างกายอันแสนยืดหยุ่นจะอำนวยความสะดวกในกีฬาดาบแล้วยังอำนวยความสะดวกใน'การฆ่า'อีกด้วย
               ความคล่องแคล่วว่องไว แม้เฮเลนจะมีแรงน้อยนิดวิ่งนานๆไม่ได้ แต่เธอนั้นวิ่งเร็วปานลมกรด อาจจะเป็นเพราะรูปร่างของเธอเพรียวบางลู่ลม

ลักษณะการพูด :: วาจาของเฮเลนไม่ได้ดูดีเหมือนหน้าตา วาจาของเธอนั้นกวนประสาท และเหมือนมีฟาร์มสุนัขไว้ในปาก ถึงแม้ว่าหล่อนจะอ้างว่าเป็นการจิกกัดแบบผู้ดีก็ตาม แทนตัวเองว่า ฉัน/ดิฉัน แทนคู่สนทนา คุณ หรือถ้าสนิทในระดับหนึ่งจะแทนว่า นาย / เธอ ถ้าเกลียดหรือไม่ชอบหน้า จะเริ่มมีคำหยาบคายอย่าง แก / หล่อน 
"คนอย่างหล่อน มีอะไรสู้ดิฉันคนนี้ได้เหรอคะ ช่างน่าสงสารจริงๆที่สุดท้ายเขาก็เลือกฉัน"หญิงสาวยกยิ้มกอดอกอย่างถือดีและมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างสมเพช
"อ๊ะ แย่แล้วล่ะค่ะ เหมือนกับว่า คุณที่มีระดับสติปัญญาต่ำจะโมโหแล้ว" เฮเลน่าแสร้งทำหน้าตกใจแต่รอยยิ้มที่ราวกับยิ้มแสยะนั้น ทำให้คนตรงหน้ารู้ว่าหล่อนเพียงแค่กวนประสาทเขาเท่านั้น
"เมื่อสักครู่ดิฉันไม่ได้เอ่ยเจาะจงถึงใครเป็นพิเศษเลยนะคะ เพียงแค่พูดลอยๆ" เฮเลน่า ยกมือยอมแพ้และพูดแก้ตัวได้อย่างเเนบเนียน แหม คนตรงหน้ามีฝีมือการต่อสู้ที่เก่งกาจพอสมควรถ้าเธอกวนประสาทเอามากๆเกรงว่าศพจะไม่สวยน่ะสิ!
"ต้องขออภัยสำหรับคำพูดที่เป็นความจริงของดิฉันนะคะ" เสียงหวานเอ่ยขอโทษดูจริงใจแท้จริงแล้วมันก็แค่คำขอโทษที่แสนประชดประชัน!
"โอ๊ะ ร้องไห้เสียแล้ว ช่างน่าสงสารเสียจริง ดิฉันเพียงแค่อยากให้คุณรู้ความจริงมิได้เจตนาเสียดสีคุณเลยแม้แต่น้อย..." นัยย์ตาสีมรกตของเธอหรี่ลง น่าสมเพช เฮเลน่าคิดในใจ เธอผละจากร่าง

เพิ่มเติม :: เฮเลน่าเป็นอดีตนักกีฬาฟันดาบเอเป( Épée)ระดับชาติของประเทศฝรั่งเศส ปัจจุบันถอนตัวออกเนื่องจากต้องกลับมาเรียนต่อที่อเมริกาในระดับอุดมศึกษาที่ มหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ด เธอจึงมีความสามารถในการใช้ดาบชนิดนี้ได้เป็นอย่างดี รวมถึงปืนสไนเปอร์ไรเฟิล ปืนที่ต้องยิงจากระยะไกลและใช้ความแม่นยำมากแต่สามารถเปลี่ยนเป็นรัวกระสุนได้เช่นกัน เฮเลน่าใจเย็นมากพอที่จะใช้มัน อาวุธพื้นฐานที่เธอใช้ได้เป็นดาบคู่ เฮเลน่าถนัดทั้งซ้ายและขวา จึงไม่มีปัญหาในการใช้งาน เฮเลน่ามีร่างกายที่ยืดหยุ่นเพราะเคยเรียนบัลเล่ต์ครั้งที่ยังวัยเยาว์ ฝีเท้าการเดินและวิ่งของหล่อนไวมากราวกับนินจาหรือนักฆ่ามืออาชีพ แต่ความเร็วนี้แลกมากับพละกำลังกายของเธออันน้อยนิดเมื่อเทียบกับนักกีฬาด้วยกัน หากพวกเขาวิ่งได้สิบกิโลเมตรเธอจะวิ่งได้แค่ห้ากิโลเมตร บวกลบไม่เกินสองกิโลเมตร อาวุธที่เฮเลน่าใช้ไม่ได้เลยจะมีขวาน เคียว ค้อน หรืออะไรก็ตามที่หนักเกินกว่าดาบคู่ เพราะแค่ดาบคู่เธอก็รู้สึกว่ามันหนักสุดๆจนไม่อยากใช้แล้ว 

ดาบเอเป จัดเป็นดาบกีฬาสากลชนิดหนึ่งมีโกร่งดาบบังมือ ปลายดาบเรียวแหลม ขนาดที่เฮเลน่าใช้คือความยาว 110 cm. เป็นขนาด max หล่อนถนัดใช้เอเปมากที่สุดในบรรดาอาวุธที่ใช้เป็น

ดาบคู่ แต่ต่างสีของเฮเลน่า สีแดงอยู่ฝั่งขวา สีน้ำเงินอยู่ฝั่งซ้ายออกแบบมาเพื่อหล่อนโดยเฉพาะ น้ำหนักพอประมาณ เพราะตีจากเหล็กกล้าชั้นที่ทำให้น้ำหนักของดาบเบาลง เฮเลนมีทักษะและไหวพริบที่ดีในการใช้มัน แม้จะยากลำบอกในตอนแรกแต่ก็ผ่านไปด้วยดี หล่อนถนัดดาบคู่เป็นลำดับที่สาม

สไนเปอร์ไรเฟิล หากใครรู้จักเกม overwatch ก็คงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก อาวุธที่แมงมุมแม่ม่ายดำใช้ อนึ่งความยาวของมันนั้นไม่ได้เทอะทะ และน้ำหนักที่พอรับได้กับออพชั่นเสริมเปลี่ยนเป็นปืนไรเฟิลที่รัวกระสุนได้อย่างเมามัน นับเป็นอาวุธลำดับที่สองที่เฮเลนถนัดมากที่สุด


Just Tear โลกนี้ต้องการคนดีค่ะ น้องเนยรักโลกค่ะ //สะบัดผม

APPLICATION



Illustration : 朝日川日和 

Creator Character Au : EasT

"ใช้ชีวิตทุกวันอย่างมีความหวัง แม้ว่าธรรมชาติจะสร้างทุกอย่างให้สมดุลกันอย่างลำเอียงก็ตาม"

ชื่อ - นามสกุล : อันญา แอชมอร์ ( Anya Ashmore ) ; Anya ภาษารัสเซียแปลว่าความดีงาม สันสกฤตแปลว่าไม่สิ้นสุด รวมกันได้คำว่า 'ความดีงามที่ไม่สิ้นสุด'

ชื่อเล่น : อัญ ( An )

อายุ : 26 years

ลักษณะรูปร่างหน้าตา : อันญา แอชมอร์ หญิงสาวลูกครึ่งแคนาดา - ไทย ใบหน้าของเธอผสมผสานระหว่างประเทศตะวันตกและตะวันออกได้อย่างลงตัว ใบหน้าของเธอประดับด้วยรอยยิ้มบางตลอดเวลา ผู้ที่ได้เห็นริยยิ้มต่างต้องตกหลุมรักเธอ ว่ากันว่าเธอนั้นมีรอยยิ้มที่แสนจะงดงามราวกับเทพธิดาที่ยืนอยู่ในทุ่งทานตะวัน ริมฝีปากบางสีลูกพีชชวนให้น่าจุมพิต คิ้วโก่งสวยได้รูปโดยไร้การเติมแต่งจากเครื่องสำอางใดๆ นัยย์ตาสีอวามารีนคู่งามมองทุกสิ่งอย่างอ่อนโยน สะท้อนความสดใสของการมีชีวิต รับกับจมูกโด่งสวยได้รูป ทำให้ใบหน้าของเธอสวยหวาน ดูน่ารักมากกว่าสวย ผิวขาวอมชมพูของเธอเนียนนุ่มไร้รอยตำหนิใดๆ เรือนผมสีบลอนด์ยาวเลยติ่งหูไปสองนิ้ว (ยาวกว่าทรงผมนักเรียมัธยมศึกษาตอนต้นของโรงเรียนรัฐบาลในไทย) อันญาทำหน้าม้าบางๆ ทำให้ใบหน้าของเธอดูน่ารักเข้าไปอีก หล่อนมีรูปร่างเพรียวบางน่าถะนุถะนอม ขนาดหน้าอกที่เป็นมาตราฐาน C34 ส่วนสูง 164 เซนติเมตร น้ำหนัก 48 กิโลกรัม


ลักษณะนิสัยของตัวละคร : อันญา แอชมอร์  นักศึกษาปริญญาโทของมหาวิทยาลัย Academy of Art ในเมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา หล่อนเป็นลูกสาวคนเดียวของช่างภาพชื่อดัง'โรเบิร์ต แอชมอร์'ช่างภาพชาวแคนาดา ว่ากันว่าภาพทุกภาพของเขานั้นสื่ออารมณ์ออกมาได้สมบูรณ์แบบที่สุด แต่ล่ะภาพนั้นคงไม่ต้องกล่าวถึงราคา.. อันญาเริ่มจับกล้องถ่ายรูปตั้งแต่จำความได้ อันญาจึงมีอารมณ์ศิลปิน และเป็นพวกติสท์ในระดับหนึ่ง อันญาเป็นคนเฉื่อยชากับทุกสิ่งรอบตัวเวลาไม่มีกล้องถ่ายรูป เธอจะทำทุกอย่างอย่างสโลวไลฟ์ ถึงอัญจะเฉื่อย แต่เมื่อเธอได้จับกล้องถ่ายรูปแล้วล่ะก็หล่อนจะเปลี่ยนไปเป็นคนล่ะคนเลย อัญชอบถ่ายรูปทิวทัศน์มากกว่าบุคคล ภาพถ่ายของเธอนั้นมีองค์ประกอบภาพที่ดีมาก ถึงจะสู้ผู้เป็นบิดาไม่ได้ก็ตาม อัญชอบท่องเที่ยวไปสถานที่ต่างๆพร้อมกับกล้องคู่ใจ อัญรักทุกสถานที่ที่เธอได้ไปถ่ายรูป บางครั้งเธอก็ได้รู้จักชาวบ้านเจ้าของพื้นที่เหล่านั้นและประวัติศาสตร์ของสถานที่นั้น ทุกคนที่คุยกับอันต่างบอกว่า เธอมีวาทศิลป์ที่ดีและคุยสนุก หล่อนคิดว่าความสามารถนี้น่าจะมาจากคุณแม่คนสวย'ไอริน แอชมอร์' อัญเป็นคนใจดีชอบช่วยเหลือคนอื่นจนตัวเองเกือบได้เยือนยมโลก ครั้งหนึ่งที่เธอได้ไปเที่ยวที่น้ำตกแห่งหนึ่ง อันญาเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งจมน้ำ เด็กผู้หญิงตะเกียกตะกายขึ้นมาเอาอากาศหายใจอย่างน่าสงสาร วินาทีนั่นอันไม่คิดอะไรทั้งสิ้น ทั้งที่อันมีทักษะว่ายน้ำเพียงแค่ว่ายเอาตัวรอดเท่านั้น เธอกระโดดลงในน้ำ พยายามช่วยเด็กผู้หญิงตัวเล็ก เธอคิดว่าหล่อนน่าจะแรงน้อยแต่ไม่ อันที่ลืมคิดว่ามนุษย์เราเมื่อกำลังจะจมน้ำจะเกาะทุกสิ่งทุกอย่างให้รอด อัญช่วยเธออย่างยากลำบากทั้งคู่เกือบจมไปทั้งคู่ เคราะห์ดีที่มีผู้ผ่านมาช่วยเหลือได้ทัน ถึงเหตุการณ์นั้นจะทำให้อันกลัวคนจมน้ำไปพักหนึ่งแต่นิสัยชอบช่วยเหลือของเธอก็ไม่ได้หายไป อัญช่วยเหลือทุกคนโดยไม่หวังผลตอบแทน เธอทนไม่ได้ที่เห็นกำลังลำบากหรือต้องการความช่วยเหลือ อัญจึงโดนหลอกใช้ได้ง่ายๆเพราะเธอดูคนไม่เก่งนัก เเค่เห็นใครเดือดร้อนเธอก็ยื่นมือเข้าไปช่วยแล้วไม่สนว่าจะเป็นมิตรหรือศรัตรูแม้บางครั้งมันจำให้ชีวิตเธอวุ่นวายไปพักใหญ่  อัญชอบนั่งสมาธิเพราะเธอนับถือศาสนาพุทธตามผู้เป็นมาดา อัญจึงเป็นคนที่ใจเย็นและจัดการกับปัญหาที่เข้ามาในชีวิตได้ดี เพราะหล่อนใช้หลักคำสอนของศาสนาพุทธที่เธอนับถือมาช่วย  อัญรักความมีชีวิตชีวาของทุกสิ่ง โดยเฉพาะสิ่งที่เธอกำลังจะกดชัตเตอร์ถ่าย อันเชื่อในความสมดุลของโลก และเชื่อในความหวังของการมีชีวิต ครั้งหนึ่งที่เธอได้ไปเยือนประเทศอินเดียอดีตประเทศที่เคยมีอิทธิพลต่อโลกมากมายทั้งวัฒนธรรม ภาษา ประเทศไทยที่เธอมีสัญชาติอยู่นี้ก็ได้รับอิทธิพลจากทางนี้มามากเหมือนกัน อัญไม่แปลกใจที่ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนที่นี่จะไม่ดี โดยเฉพาะชนชั้นจัณฑาล
ชนชั้นต่ำที่สุด น่าเศร้าที่พวกเขาไม่มีความสำคัญหรือมีค่าในสายตาของชนชั้นที่สูงกว่า อัญอยากจะช่วยพวกเขาให้พ้นจากฐานะนี้ เเต่เธอไม่มีเงินหรืออำนาจมากพอจะเปลี่ยนแปลงอะไรมาก อัญจึงตัดสินใจถ่ายรูปโดยขอให้พวกเขาเป็นแบบให้ ในตอนแรกเธอโดนปฏิเสธและถูกขับไล่ออกมา อัญไม่ยอมแพ้ หล่อนสัญญากับพวกเขาว่าจะถ่ายแค่รูปเดียวแล้วจะหายไปเลย พวกเขาแปลกใจที่เธอพูดอะไรแปลกๆ เเต่ก็ยอมให้เธอถ่ายรูป อัญนำรูปที่ถ่ายส่งเข้าประกวดพร้อมตั้งชื่อภาพเสียดสีอย่างจงใจ 'ความสมดุลที่ไร้ความยุติธรรม'หล่อนต้องการให้ชาวโลกได้เห็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยเห็น เพียงแค่ได้รับรู้ไม่ทำอะไรกับมันเลยแม้แต่นิดเดียว เธอทำสำเร็จจากนั้นก็มีการจัดตั้งกองทุนสำหรับช่วยเหลือผู้ยากไร้ขึ้นในโลก โดยอัญได้รับเชิญให้เป็นกรรมการ แต่เธอปฏิเสธไปเพราะไม่ชอบการมีอำนาจ ชื่อเสียง เธออยากใช้ชีวิตเรียบง่าย และมีความสุขกับการถ่ายรูปต่อไป อนึ่งที่เธอชอบถ่ายรูปขนาดนี้เพราะเธอความทรงจำสั้นกับตัวหนังสือ อัญจึงต้องจำทุกอย่างโดยผ่านรูปภาพ เธอเชื่อว่ารูปถ่ายของเธอทุกรูปคือความทรงจำ อัญไม่จำเป็นต้องนึกถึงอดีตให้เสียเวลาเพียงแค่หยิบรูปขึ้นมาอดีตก็อยู่ตรงหน้าของเธอแล้ว อัญมักจะไม่ค่อยชอบพูดมากนัก ถึงหล่อนจะมีวาทศิลป์ที่ดีแต่อัญมักใช้รูปถ่ายเป็นสื่อกลางอารมณ์และคำพูดของเธอ อัญมีบรรยากาศที่น่าเข้าใกล้ กลิ่นของเธอที่มักคลุกคลีกับธรรมชาติจนเป็นหนึ่งเดียวกัน พัดลอยตามลมเข้ามาแตะจมูกคนรอบข้าง ทำให้พวกเขาผ่อนคลาย รู้สึกอบอุ่น อัญเป็นผู้ฟังที่ดีจากนิสัยที่ไม่ค่อยพูดของเธอ ถ้าคุณมีปัญหาหนักใจต้องการระบาย อัญพร้อมที่จะเป็นผู้ฟังที่ดีให้คุณระบายใส่ อัญมีทั้งความเป็นผู้ใหญ่และเด็กในเวลาเดียวกัน ความคิดของเธอ กับนิสัยทำให้เธอดูเป็นผู้ใหญ่ แต่ความแอบดื้อรั้นและเอาแต่ใจเล็กน้อยตามประสาลูกคนเดียวทำให้เธอดูเป็นเด็ก ครั้งตอนอายุสิบหกปี เธอขออนุญาตคุณพ่อคุณแม่ไปประเทศจีนคนเดียว ตอนนั้นเธอยังจำใบหน้าแสนดุของคุณแม่และน้ำเสียงก้าวร้าวเเสนเอาแต่ใจของตัวเองได้อยู่เลย เธอเกือบทำให้คุณแม่ร้องไห้ อัญที่คิดได้กลับมาขอโทษมารดา นี่เธอลืมไปได้อย่างไรท่านเป็นห่วงเราถึงไม่อยากให้เราไป ถ้าไม่ห่วงคงปล่อยให้เธอไปโดยไม่แยแสอะไร คุณแม่ชนะแต่เธอก็ได้ไปอยู่ทีเนื่องจากคุณพ่อกลับมาจากไอร์แลนพอดี อัญจึงได้เดินทางไปประเทศจีนพร้อมคุณพ่อ อัญเป็นเพียงเด็กน้อยไร้เดียงสาในสายตาของคุณแม่และคุณพ่อ นั่นก็เป็นความจริง ถึงเธอจะมีความคิดเป็นผู้ใหญ่แต่หล่อนนั้นแสนจะซื่อบื้อและตามโลกไม่ทัน แต่เธอไม่ได้โลกสวยถึงขนาดจะขี่ม้ายูนิคอร์นสายรุ้งเหมือนในการ์ตูนเรื่องหนึ่ง อัญไม่ถูกคนเจ้าเล่ห์และเห็นแก่ตัว เธอมีความทรงจำที่ไม่ดีกับคนเหล่านี้ อัญเคยโดนหลอกใช้งาน ด้วยความไม่รู้คิดว่าเขาจะลำบากจริงๆเธอจึงช่วยจนสุดความสามารถ ท้ายสุดแล้วอัญได้รับรู้ความจริงอันแสนโหดร้าย 'ฉันทำงานคู่กับยัยนั่นเพราะฉันจะได้สบายต่างหากล่ะ คนอะไรไม่รู้โง๊โง่ โดนหลอกใช้ยังไม่รู้ตัว แค่ฉันบีบน้ำตายัยนั่นก็โง่ยอมทำตามแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า'อัญใจสลายแต่เธอก็อดทน เธอเชื่อในความดีที่เธอทำ เพียงแต่คำพูดในวันนั้นทำให้เธอระวังตัวมากขึ้นและไม่ไว้ใจใครง่ายๆ เหมือนเมื่อก่อน เริ่มศึกษาคนและเรียนจิตวิทยาเพิ่มเติม เหตุที่เธอเรียนเพราะไม่ต้องการโดนหลอกและโดนหักหลังอีกเป็นครั้งที่สอง อัญที่เรียนรู้ได้ไวเริ่มสังเกตุคนอื่นได้ดีขึ้น แต่เธอมักใจอ่อน ปฏิเสธไม่ค่อยเป็นเหตุการณ์โดนหลอกใช้ก็ยังมีอยู่เรื่อยมา จากที่กล่าวมาอัญดูเหมือนจะเป็นคนดีถึงดีมาก แต่อัญก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่จ้องมีด้านเลวร้ายของตัวเอง อัญเป็นคนชอบโกหก ถึงเธอจะดูจริงใจกับทุกการกระทำและคำพูดแต่บางสิ่งความหวังที่เธอรู้ว่ามันไม่มี เธอก็มอบให้กับพวกเขา คำโกหกคำโต 'แล้วมันจะผ่านไปด้วยดี เชื่อฉัน..นะ' รู้ทั้งรู้ว่าไม่ควรให้ความหวังควรจะบอกความจริง อัญปากแข็งเกินกว่าจะบอกความเป็นจริง เธอละอายใจที่ให้คำปรึกษาได้แย่ แม้ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะยิ้มกลับมา และเธอก็คิดว่าบางครั้ง คำลวงที่หอมหวานก็น่าฟังกว่าความจริงที่แสนสะอิดสะเอียน 

ลักษณะคำพูด : อัญไม่ค่อยพูดกับใครมากนักนอกจากคนในครอบครัว เธอมีน้ำเสียงนุ่มทุ้มน่าฟังชวนให้คล้อยตาม หรือบางครั้งมันก็ดูง่วนงุนจนน่าเอ็นดู
"อัญไม่อยากออกไปแล้วค่ะคุณพ่อ โรซี่ ต้องเปลี่ยนเลนส์ก่อน ซึ่งวันนี้อัญฝากคุณพ่อซื้อมาหน่อยนะคะ.."
"หนูชื่ออัญค่ะ ถ้าไม่เป็นการรบกวนหนูถ่ายรูปคุณยายได้ไหมคะ?"
"อัญจะไป ยังไงอัญก็จะไป! คุณแม่อย่าห้ามอัญเลยค่ะ"
"ไม่อ่ะ วันนี้คุณพ่อเอาโรซี่ไปเปลี่ยนเลนส์ให้ ฉันไม่ยอมออกจากบ้านโดยที่ไม่มีโรซี่ บาย"
"ฉันไม่ได้เดินช้านะ นายต่างหากที่เดินเร็วไป เห็นธรรมชาติไหม อ่า ถ้าฉันมีกล้องสักตัวคงจะดี.."
"ธรรมชาติมันสมดุล ดังนั้นทุกคนจะมีทุกอย่างเท่าเทียมกันไม่ได้หรอก"
"ความอยุติธรรมมันคือความสมดุลทุกคนฝืนมันไม่ได้"
"การถ่ายรูปเป็นตัวแทนของปัจจุบัน เมื่อกดชัตเตอร์ไปแล้วสิ่งที่อยู่ในภาพจะกลายเป็นอดีต ฉันไม่จำเป็นต้องมานั่งเขียนบันทึกอดีต เพราะอดีตของฉัน ฉันบันทึกมันไว้ในภาพถ่ายแล้ว"
"ใช้ชีวิตทุกวันอย่างมีความหวัง ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ"

ความสามารถพิเศษ :
- การหาสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่เคยมีคนไปมาก่อน ; ราวกับอัญมีจิตสัมผัสบางอย่างที่นำทางเธอไป อัญใช้ความรู้สึกในการหาสถานที่ถ่ายรูป...

- การวาดรูปเสมือนจริง ; บางครั้งอยากเปลี่ยนอารมณ์มาวาดรูปบ้าง อันญาวาดได้ค่อนข้างดี

- จดจำเหตุการณ์จากรูปถ่าย ; อัญจะจำทุกอย่างที่เกิดขึ้นในอดีต มันบิดเบือนจากความจริงไปเพียง 10 - 20%

เพิ่มเติม : - อัญเกิดในประเทศแคนาดาก่อนจะมาขอสัญชาติในไทยทีหลังค่ะ
- กล้องถ่ายรูปของอัญ ; โรซี่  Nikon D610 ราคาประมาณ 50,000 บาทค่ะ ไม่รวมเลนส์ขาตั้ง



วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2559

Sunemaru Sejin [ ผ่าน ]

APPLICATION

Illustration : 奈津
Creator Character Au : EasT

"วิ่งสิบกิโลเมตร ซิทอัพหนึ่งร้อยครั้ง ลุกนั่งหนึ่งร้อยครั้ง วิดพื้นหนึ่งร้อยครั้ง ถ้าอยากเก่งเหมือนฉันก็ทำแบบนี้ทุกวัน ห้ามขาดแม้แต่วันเดียว!"

ชื่อ-นามสกุล :: ซุเนะมารุ เซจิน ( Sunemaru Sejun ) ; เซจิน ( Sejin ) มีความหมายคือเทพแห่งการรบ ลักษณะคล้ายมาร์ กับ แอรีสค่ะ 

ชื่อเล่น :: เซย์ ( Sei ที่ปัจจุบันมันซ้ำกับอดีตกัปตันเทย์โควคนหนึ่งจึงไม่ค่อยมีคนเรียกแล้วนอกจากคนในครอบครัว), จิน ( Jin ปกติทุกคนจะเรียกเธอแบบนี้ จะได้ไม่ซ้ำกับ เอ่อ ผู้ชายที่น่าเกรงขามคนหนึ่งค่ะ)

อายุ :: 16 years

ลักษณะของตัวละคร :: ซุเนะมารุ เซจิน เจ้าของนัยย์ตาสีมรกตคู่งาม เรือนผมสีแดงเพลิง ใบหน้ารูปไข่มนสวย รับกับจมูกโด่งที่เชิดขึ้นนิดพองาม ริมฝีปากสีลูกพีชอวบอิ่มน่าสัมผัสเย้ายวนให้ผู้ได้มองใบหน้าของหล่อนหลงใหลจนโงหัวไม่ขึ้น รวมถึงหน้าอกหน้าใจขนาดคัพซีพอดีมือไม่ใหญ่ไม่เล็ก ไม่ทำมาแน่นอน หุ่นของเซจินเป็นของผู้หญิงออกกำลังกายเป็นประจำ ทำให้หน้าท้องแบนราบของเธอปรากฎลอน Pack พอให้ดูสวยงาม ถึงแม้ว่าหล่อนจะพยายามอย่างหนักให้มันมีหกลูกให้ได้ก็ตาม 
ส่วนสูง : 167 เซนติเมตร น้ำหนัก : 46 กิโลกรัม
นิสัย :: กรุ๊ปเลือด A โดยปกติ ผู้หญิงกรุ๊ปเลือดนี้จะเป็นคนเรียบร้อย  แต่ขออภัยที่'ซุเนะมารุ เซจิน'คนนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้น เซจินเป็นผู้หญิง แสนห้าว อาจเป็นเพราะตั้งแต่จำความได้เธอก็มีแต่เพื่อนเล่นเป็นผู้ชายมาตลอดจึงไม่ค่อยมีนิสัยเป็นกุลสตรีแบบผู้หญิงคนอื่นเท่าไหร่ เซจินมักพูดจา ขวานผ่าซาก หล่อนเป็นคนเถรตรง คิดอะไรกับใครก็พูดแบบนั้นตรงๆไม่อ้อมค้อม มันอาจจะทำร้ายจิตใจผู้ฟังแต่อย่างน้อยเธอก็พูดความจริงและไม่ได้เสแสร้ง เซจินเป็นผู้หญิงที่เรียนในระดับดีจากการสอบวัดประเมินผลสอบนักเรียนสามร้อยคนทั้งสายชั้น เธอได้อันดับที่หก ทั้งนี้เพราะการติวสุดโหดจากกัปตันและจากสมาชิกในชมรมหล่อนหัวดีเรียนรู้ไว้เพียงแค่ขี้เกียจและไม่สนใจอะไรนอกจากบาสเก็ตบอลเท่านั้น เซจิน เก็บอารมณ์ทางสีหน้าไม่เป็น ทุกคนจึงทราบอยู่ตลอดว่าเวลานี้อารมณ์ของเธอเป็นอย่างไรเพราะเเค่ดูสีหน้าและแววตาของเธอก็เพียงพอแล้ว เซจิน เก็บความลับได้แย่มาก การที่จะเล่าเรื่องลับของคุณให้หล่อนฟัง อนึ่งเธอไม่ได้ปากโป้งหรือเอาเรื่องของคุณไปบอกใครต่อใคร เพียงแต่ถ้าคนที่คุณกล่าวถึงในความลับมาเค้นความจริงกับเซจิน เซจินจะแสดงท่าทางไม่รู้เรื่องได้ไม่เนียน และถูกจับได้ในที่สุด การโกหกของเธอนั้นยอดแย่ การแสดงละครของเธอก็เช่นกัน เซจินไม่รู้จักการใส่หน้ากากเข้าหากันในสังคมหรูหราหล่อนเกิดเป็นคนธรรมดา แต่นั่นทำให้ทุกคนชอบที่เธอเป็นอย่างนี้ เซจินรักความเรียบง่ายของชีวิต เธอไม่ต้องการเป็นที่หนึ่ง เพียงแต่เธอต้องการทำตามความฝันของเธอให้เป็นความจริง เซจินฝันว่าจะได้เป็นโค้ชฝึกซ้อมให้กับทีมบาสเก็ตบอลทีมชาติญี่ปุ่น แต่ก่อนหน้านั้นเธอต้องเป็นตัวแทนบาสญี่ปุ่นให้ได้ก่อน เซจินไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆ หล่อนมีความพยายามและสปิริตมากกว่าใคร เซจินสนุกทุกครั้งที่ได้เล่นบาส เธอมั่นใจในฝีมือของตัวเองแต่ไม่ได้อวดดีหรือหยิ่งผยองมาก(นอกจากจะShow offเล็กน้อยกวนบาทาคู่แข่ง) ยามที่เธอโลดแล่นบนสนาม ออร่าของเธอเปล่งประกายราวกับมีใครฉายแสงสปอร์ตไลท์ให้ อีกอย่างคือเซจินใจดีและยินดีแบ่งปันเทคนิคการเล่นบาสให้กับทุกคน(ถ้าพวกเขาเข้าใจที่เธออธิบายอ่ะนะ) เซจินรักเพื่อนและค่อนข้างติดเพื่อนในชมรมบาสมาก เหตุเพราะเธอเจอบุคคลที่ชอบเล่นบาสเหมือนกันและเป็นเพื่อนผู้หญิงกลุ่มแรกที่คุยกับเธอรู้เรื่อง??? เซจินค่อนข้างเอ๋อในเรื่องที่ผู้หญิงคนอื่นเขาคุยกัน นอกจากเรื่องบาสกับอาหารเซจินก็ไม่รู้เรื่องอื่นเลย แม้หล่อนจะห้าวและพูดจาไม่ค่อยเข้าหูใครแต่เธอเป็นคนที่อ้อนได้น่ารักพอสมควร(เอาเป็นว่าถ้าเธออ้อนใครอัตราการสำเร็จมากกว่าหกสิบเปอร์เซ็นค่ะ!) นับตั้งแต่เกิดมาเธอเคยอ้อนแค่คุณพ่อ เพียงครั้งเดียวให้ซื้อรองเท้าบาสที่แพงหูฉี่ของนักกีฬาบาส NBA คนโปรดของเธอ และแน่นอนหลังจากที่ได้รองเท้ามาเด็กสาวขี้อ้อนคนนั้นก็หายเข้ากลีบเมฆ เหลือเพียงเเต่เซจินคนแมน(?)

ประวัติ :: เซจิน ลูกสาวคนเดียวของร้านราเมงซุเนะ ราเมงเจ้าเด็ด รับรองความอร่อยจนต้องวนกลับมาซื้ออีกหลายรอบ การันตีโดยซุเนะมารุ เซจินคนนี้ เซจินอาศัยอยู่กับคุณพ่อที่ทำกิจการเปิดร้านราเมงในเมืองชิบูย่าควบคู่กับคุณแม่ที่เปิดคาเฟ่ขนมหวานเล็กๆข้างร้านราเมง ช่างเป็นการจับคู่ที่ลงตัวจริงๆกับขนมฝรั่งเศสกับอาหารญี่ปุ่น(?) หลังเลิกเรียนเธอจะต้องไปช่วยงานที่ร้านของคุณพ่ออยู่บ่อยๆ เพราะในช่วงเวลาเลิกงานลูกค้าจะเยอะเป็นพิเศษ ที่บอกว่าอร่อยมากนี่หล่อนไม่ได้โม้! คนต่อคิวยาวเหยียดจนทำกันไม่ทัน เซจินในวัยเด็กมีเพื่อนเล่นเป็นผู้ชายค่อนข้างเยอะ ผู้ชายเหล่านี้ก็เป็นทายาทเจ้าของร้านซูชิ ราเมง เหมือนกับเธอนี่แหละ แต่ยกเว้นลูกชายของคุณลุงที่เป็นทายาท'ร้านขายรองเท้าบาสเก็ตบอล' ครั้งแรกที่เธอเห็นเขามาพร้อมกับลูกบาสและรองเท้าบาสมันดูเท่มาก ลูกกลมๆสีส้มนั่นดึงดูดเธอสัมผัสมัน เซจินไม่ทราบว่าเธอหลงรักสิ่งที่เรียกว่า'บาสเก็ตบอล'ตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอรู้แค่ว่าเธอมีความสุขที่ได้เล่นลูกสีส้มนี่กับเพื่อนๆของเธอ รู้สึกสนุกทุกครั้งที่ได้ชู้ตลงห่วง รู้สึกท้าทายเมื่อได้แข่งกับคนที่เก่งกว่า เซจินสัญญากับตัวเองว่าจะไม่เลิกเล่นบาสอย่างเด็ดขาด เพราะให้ใจกับบาสเก็ตบอลไปหมดแล้ว อ้ออีกอย่าง เซจินมีความลับที่รู้กับคุณแม่แค่คนเดียวคือ เธออยากเป็นผู้หญิงที่มีความเรียบร้อยมากกว่านี้ เพื่อที่จะเป็นภรรยาและแม่ของลูกที่ดีให้กับสามีในอนาคตของเธอ ส่วนความคืบหน้าในการปฏิบัติคือศูนย์เปอร์เซ็นค่ะ...

ความสามารถ :: เซย์เป็นหนึ่งในบุคคลที่สามารถใช้โซน(Zone)ได้ สไตล์การเล่นบาสของเธอคือ 'อิสระ' ไม่มีรูปแบบที่แน่นอนทำให้เดาทางได้ยาก ตำแหน่งของเซย์คือ Power Forward หล่อนคือผู้ที่ทำแต้มได้เยอะที่สุดในการแข่งขันทุกแมตช์ เเละเป็นเอซ ( Ace ) ของทีม เซย์มีความเร็วที่น่าตกใจ รวมถึงหล่อนกระโดดได้สูงมาก เซย์มักจะมีลีลาการชู้ตที่ค่อนข้างแปลก เธอสามารถหลอกคู่ต่อสู้ว่าจะส่งบอลแต่นั่นไม่ใช่มันเป็นลูกชู้ตของเธอ เซย์ถนัดการบุก หรือเกมรุก มากกว่าการป้องกันหรือตั้งรับ แต่การป้องกันของเธอก็ไม่ได้ผ่านไปได้ง่าย เซย์มีสัญชาติญาณที่ดีมาก หล่อนสามารถจับทางลูกส่งของคุณ ลูกชู้ตของคุณ หรือแม้แต่อ่านใจว่าคุณกำลังจะทำอะไรต่อ นั่นไม่ใช่แค่พรสวรรค์ เซย์อาศัยประสบการณ์ที่สั่งสมมาใช้เดาทางคู่ต่อสู้เช่นกัน เซย์เป็นผู้เล่นที่มีทั้งพรสวรรค์และประสบการณ์ การจะต่อสู้ one on one กับหล่อนหากคุณมีฝีมือไม่เพียงพอที่จะต่อสู้กับเธอ คุณจะพ่ายแพ้แบบหมดสภาพ หรือถ้าคุณมีความสามารถพอที่สู้กับเธอได้ขอแสดงความยินดี คุณจะได้รับการบุกแบบไม่ทันตั้งตัวและคุณจะแพ้แบบอย่างมีศักดิ์ศรีแน่นอน แต่จุดอ่อนของหล่อนคือความใจร้อนและถือดี อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าหล่อนถนัดการบุกแบบหนักหน่วงรวดเร็ว เผลอไปสิบนาทีคะแนนอาจจะทิ้งห่างกันสามสิบกว่าแต้ม! แต่ถ้าคุณป้องกันดีพอและสามารถทำให้หล่อนตบะแตก(หัวร้อนนั่นเอง) พึงคิดไว้ว่า การบุกที่แท้จริงมันจะเริ่มขึ้นต่อจากนี้!


ชอบ :: ถูกท้าแข่งแบบone on one เลือกในกายเธอจะเดือดพล่าน แววตาที่สดใสแปรเปลี่ยนเป็นแววตาของนักล่าที่จะขย้ำเหยื่อไม่เหลือไว้แม้แต่ซาก.. ถ้าหากคู่สู้สูสี เซจินจะยิ้มอย่างดีใจ นัยย์ตาจะกลับมาสดใสดั่งเดิม "ในที่สุดฉันก็หาคนที่สู้กับฉันได้แล้ว!"

ไม่ชอบ :: การดูหมิ่นคนอื่น เซจินไม่ชอบถึงขั้นเกลียดบุคคลเหล่านี้ เธอเชื่อว่าทุกคนมีความสามารถและพรสวรรค์ของตัวเองเพียงแต่อาจจะหาไม่พบ คนที่ดูถูกความสามารถของคนอื่น ก็เป็นแค่คนที่ขี้อิจฉาในสายตาของเซจินเท่านั้น หล่อนจะพูดสั่งสอนคน ถ้าไม่ฟังก็อาจจะมีการชกต่อยกันเกิดขึ้น 
"คิดว่าแกคนเดียวจะชนะทีมฉันได้รึไงวะ!! ดูถูกกันขนาดนี้มาบวกกันเลยดีมั้ย!!" เซจินตะโกนออกไปอย่างเหลืออด หล่อนทนไม่ไหวกับท่าทางอวดดีและสายตาที่จ้องมองพวกเธออย่างดูแคลน 

กลัว ::  ไส้เดือน ตอนเด็กเธอเคยโดนเพื่อนแกล้งเอาไส้เดือนมาไว้บนใบหน้าของเธอ ตอนนั้นเธอกรี๊ดสาวแตก และร้องไห้เป็นครั้งแรก เซจินกลัวมันมาก หล่อนจะล้มลงไปนั่งกับพื้นทันทีเพราะเข่าอ่อน "อะ เอามันออกไปไกลๆที" เสียงหญิงสาวสั่นไปด้วยความกลัว ขาของเธออ่อนระทวยจนยืนไม่อยู่ไปนั่งจุ้มปุ๊กอยู่ที่พื้น

จุดอ่อน :: ใจร้อน ความใจร้อนของเซจินเกือบพาทีมพ่ายแพ้มาแล้วปัจจุบันเธอกำลังหาวิธีให้ตัวเองใจเย็นอยู่

จุดเเข็ง :: ความเถรตรงและจริงใจ ทำให้หล่อนได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากเพื่อนร่วมทีม
                ความแข็งแรง(ถึก) หุ่นของเธอยืดหยุ่นและค่อนข้างเหมาะในการเล่นบาสเก็ตบอล ตำแหน่งที่เธอดำรงอยู่คือPower Forward เรียกง่ายๆคือคนที่พลังกายเยอะที่สุดในทีม ไม่เพียงแค่พลังกายที่ต้องเยอะ ทั้งความเร็ว การบุกทำคะแนน แม้กระทั่งการรีบาวด์ตำแหน่งนี้จึงต้องถึกพอสมควรเลยทีเดียว
               ความคล่องแค่ว เซจินต้องวิ่งสิบกิโลเมตรทุกวันตอนเช้า เธอจึงมีกำลังขาที่ดี รวมทั้งหุ่นเพรียวสุดเฟิร์มของเธอที่ทำซิทอัพทุกวัน ทำให้ทุกอย่างของเธอดูคล่องแคล่วและกระฉับกระเฉง

งานอดิเรก :: ออกกำลังกาย เช่น ซิทอัพ วิดพื้น ว่ายน้ำ โหนบาร์ วิ่ง ( หล่อนทำทุกอย่างเพื่อ Sox Pack ค่ะ  ) / อ่านนิตยสาร NBA เซจินชอบส่องทีมบาสทีมโปรด รวมถึงเทคนิคการเล่นของพวกเขา

ลักษณะการพูด :: หลุดคำว่า แก กับคู่สนทนาอายุเท่ากันบ่อยมากค่ะ...(ตอนนี้กำลังพยายามใช้คำว่า นาย กับ เธอ ) พูดจาไม่ค่อยมีหางเสียงยกเว้นเวลาอ้อน(นานน๊านทีจะทำ)

"กะ แก เอ้ย นาย รู้ทางไปชมรมบาสเก็ตบอลหรือเปล่า?"
"นี่ฉันถามแกดีๆ ไม่ได้มาหาเรื่องเลยนะ" 
"One on One ถ้านายแพ้ ต้องทำตามที่ฉันสั่งสามข้อ ตกลงนะ!"
"พวกแกช่วยเงียบกันหน่อยได้ไหม! คนจะหลับจะนอน ทะเลาะกันเสียงดังบ้าน__เหรอ!"
"คุณพ่อสัญญาแล้วน้า~ ว่าจะซื้อให้เซย์ คุณพ่อน่ารักที่สุดเลยค่ะ" ว่าแล้วก็หอมแก้มให้รางวัลคุณพ่อไปหนึ่งที รองเท้าจ๋าพี่สาวมาแล้ว!


คู่ :: อาโอมิเนะ ไดกิ ( Aomine Daiki)

เพิ่มเติม :: - เซย์สามารถทำอาหารได้อร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ!? "ฉันมีคุณพ่อเป็นเชฟราเมงมืออาชีพนะเผื่อพวกเธอจะลืม..."
ใส่เสื้อเบอร์ : 10 
สมรรถภาพเพิ่มเติมค่ะ
การวิเคราะห์ : 7 / 10 
เทคนิค : 10 / 10
ความแข็งแรง : 9 / 10
ความเข้มเเข็งทางจิตใจ : 8 / 10
ความสามารถเฉพาะด้าน : 10 / 10
พรสวรรค์ : ความยืดหยุ่น การทำแต้ม 

 รองเท้าแอร์ จอร์แดน 1 เอส พร้อมลายเซ็นราคาก็ปาไปเจ็ดแสนบาทไทยค่ะ //นังเซย์เล่นของแพงเลยนะ(อันทีจริงแล้วนางมีอันจะกินนะคะ ถือว่ามีเงินเยอะและผลาญไปเยอะเช่นกัน LOL..)

ช่วงสนทนากับไรท์
สวัสดีค่ะ ไรท์ชื่อมายุ ซาไคนะคะ ผู้ปกครองชื่ออะไรเเละต้องการให้ไรท์เรียกว่าอะไรคะ
(ตอบ) เอสคนเดิม เพิ่มเติมคือเจอกันอีกแล้วนะคะ มายุซัง 
ทำไมถึงมาสมัครเรื่องนี้คะ
(ตอบ) เพราะมายุซังค่ะ! อ้อแล้วก็ อาโฮ่ด้วย
ทำไมถึงอยากคู่กับคนๆนี้คะ
(ตอบ) เป็นตัวละครชายที่เราชอบที่สุดค่ะ เท่ หล่อ ดิบ เถื่อน<3  ปกติจะจิ้นกับโมโมอิซัง  Aomomo banzai <3 #ผิดเรื่อง
ถ้าไม่ผ่านจะเป็นอะไรรึปล่าวคะ
(ตอบ) ไม่เป็นไรค่ะ แต่ก็เสียใจนิดๆ แต่พรุ่งนี้ยังมีหวังค่ะ //หลบเข้ามุมมืด เลื่อนหาฟิค Aomomoต่อ
งั้นขอให้คุณโชคดีนะคะ บ้ายบาย//โบกมือ
(ตอบ) ขอบคุณค่ะ //โค้ง

วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2559

Victoria J. Cole [ ผ่าน //ต้องเพิ่มเสื้อผ้า ]

Application

ตอนเรียนมหาลัยหล่อนมักจะปล่อยผมเนื่องจากขี้เกียจมัดผมแค่นั้นจริงๆ
"เป็นกุลสตรีจะปล่อยผมบ้างไม่ได้หรือไงคะ?"
วิกตอเรียยืมชุดของเพื่อนสนิทใส่นอนหล่อนไม่เคยใส่ชุดที่ต้องเปิดเผย(?)ขนาดนี้เลยนะ แถมโดนเพื่อนสาวตัวดีจับมัดผมอีกด้วย
"ยะ อย่ามองนะคะ"
วิกตอเรียปัจจุบันที่เธอต้องไปทำภารกิจ Heal Love ชุดของเธอบางมาก จนเห็นสัดส่วนชัดเจน
"หน้าฉันมีอะไรติดเหรอคะ คุณเบียคุรัน?"
ภาพจำลองวิกตอเรียเคยจมน้ำในวัยเด็ก สมัยที่เธอยังไม่เป็นคุณหนูผู้ตกอับ
"ชะ ช่วยด้วย "

วิกตอเรียใส่ชุดวาบหวิวไปเที่ยวฮาวายหลังจากสอบไฟนอลของมหาลัยกับน้องรหัสอิซเบลล่า วอลเดซ ครูเซีย ( Isabella Valdez Cruzia แอบสปอยว่าเป็นนางเอกอีกคนที่อาจจะส่งค่ะ!)
"เอ่อ ชุดแบบนี้มันจะดีเหรอคะ เบลล่า"

    Credit (จากบนลงล่าง) :   One Two Three  Four Five

"ฉันไม่สนใจว่าคุณจะคิดอย่างไร เพราะฉันสนใจแค่เงินในกระเป๋าของคุณ"

       
คู่ :: เบียคุรัน เจซโซ่ ( Byakuran Gesso )

ชื่อ-นามสกุล :: วิกตอเรีย เจนิส โคล ( Victoria Jenis Cole / Victoria J. Cole ชื่อกลางของคนอังกษส่วนใหญ่เขาจะเขียนเฉพาะตัวอักษรหน้าค่ะ เวลาเรียกจะได้สะดวกๆ)  ; Victoria มาจาก Victory แปลว่าชัยชนะ 

ชื่อเล่น :: วิกตอเรีย ( Victoria )ชื่อทั่วไปที่ทุกคนเรียกหล่อนโดยวิกตอเรียไม่ได้ว่าอะไร , วิกจัง (Vic-Chan ) ชื่อสุดแสนจะน่ารักที่หล่อนสุดแสนจะรำคาญทุกครั้งที่ชายผมขาวคนนั้นเรียกเธอ และเขาเป็นคนคิดชื่อสุดมุ้งมิ้งด้วย!

อายุ :: 27 years

ลักษณะรูปร่างหน้าตา :: ดวงตาของเธอกลมโตสีฟ้าทะเลสวย รับกับจมูกโด่งรั้นได้เป็นอย่างดี ริมฝีปากของเธอมีสีชมพูอมส้มหล่อนมักจะทาลิปสติกสีจินเจอร์ ทำให้ริมฝีปากของเธอดูอวบอิ่มน่าสัมผัสอยู่ตลอด ไม่นับใบหน้ารูปไข่สวยได้รูปของเธอ กับเรือนผมสีบลอนด์ทองเหยียดตรงคลอเคลียกลางหลัง ความงดงามของเธอนั้นหาที่ติมิได้ ยิ่งจ้องมองยิ่งน่าหลงใหล วิกตอเรียมีทรวดทรงตามแบบหญิงสาวควรมี แต่ที่เพิ่มมาคือขนาดหน้าอกหน้าใจขนาดคัพซีเกือบดี (ที่ล่อตาล่อใจชายหนุ่มเป็นอย่างมาก ) แม้ว่าวิกตอเรียจะอายุอานามปาไปยี่สิบเจ็ดปีแต่ลักษณะภายนอกของเธอนั้นยังดูอ่อนกว่าวัยอยู่มาก 

ส่วนสูง : 168 cm. น้ำหนัก : 53 Kg. ( หนักหน้าอกค่ะ--- แค่กๆ )

ลักษณะการแต่งตัว :: 


บรรยายเรียงจากซ้ายไปขวานะคะ

ซ้ายมือสุด(นางแบบผมเทา) : วิกตอเรียชอบใส่ชุดสบายๆเวลาอยู่ในบ้านของเธอในทุกฤดูกาล เธอชอบใส่เสื้อยืดแขนยาวลายทางกับกระโปรงยาวถึงหัวเข่า กับถุงน่องสีดำ แม้ว่าในจะดูธรรมดาและปกติ แต่เมื่อมันอยู่บนตัวของเธอแล้วมันกลับดูดีอย่างไม่น่าเชื่อ 

ซ้ายมือถัดมา(นางแบบผมสีทอง) : ชุดที่หล่อนใส่อยู่บ้านกับออกไปซื้อของไม่แตกต่างกันมากนัก วิกตอเรียจะใส่ชุดสุภาพทั้งสองชุดอยู่เสมอ แต่เวลาที่เธอออกไปข้างนอกสิ่งที่เพิ่มมาคือกระโปรงที่สั้นเลยเข่ามานิดหน่อย กับรองเท้าคอมแบตที่ดูทันสมัยและคล่องแคล่ว 




ชุดต่อมา(นางแบบผมดำ) : น้อยครั้งนักที่กุลสตรีอย่างวิกตอเรียจะใส่ชุดที่ค่อนข้างวัยรุ่น อายุอานามของเธอก็ไม่ใช่น้อยๆ หล่อนจะใส่ในโอกาสที่ต้องการไปเที่ยวสถานที่ที่ต้องใช้ชุดแบบทะมัดทะแมง เช่น ไปเที่ยวในป่า ไปปีนเขา หรือไปเล่นสกี ชุดที่เธอใส่ประจำคือเสื้อแจ๊กเก็ตสีดำยาว ที่ทับกับเสื้อเชิ้ตสีเทา ที่ยาวถึงต้นขา กับเลกกิ้งสีดำ พร้อมรองเท้าคอมแบตเช่นเดิม

ชุดทางขวาสุด (นางแบบผมสีน้ำตาล) : วิกตอเรียมักจะใส่ชุดนี้ในหน้าร้อน และฤดูใบไม้ผลิ มันทะมัดทะแมง ดูสุภาพ เธอจะใส่เสื้อสีขาวบางจนเกือบเห็นเสื้อชั้นในข้างใน ใส่ทับด้วยเสื้อกันหนาวสีขาวปกกะลาสี พร้อมด้วยกางเกงขาสั้นยาวเลยเข่ามาสองคืบ ที่สำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือสกินนี่สีดำ คราวนี้เธอจะใส่ชุดนี้คู่กับรองเท้าคัชชูสีครีม เสริมด้วยพร็อพหมวกสีดำทำให้วิกตอเรียมีสเน่ห์มากขึ้นไปอีก

ชุดนอน : วิกตอเรียชอบใส่กระโปรงนอน หล่อนให้เหตุผลว่าใส่ง่าย ถอดง่าย(?) กว่าใส่กางเกง อีกทั้งผู้หญิงทุกคนเขาก็ใส่นอนกัน ชุดนอนตัวโปรดของเธอทำจากผ้าฝ้ายชั้นดี ไม่ระคายเคืองผิวหนัง อีกทั้งยังมีดีไซน์ที่เรียบร้อยทันสมัยแอบเซ็กซี่นิดๆ


วิกตอเรีย จะใส่ชุดเป็นทางการเมื่อออกไปพบปะกับคนหมู่มาก หล่อนจะใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีน้ำตาลอ่อนยาวลายทางตรง กับกระโปรงมีระบายสองชั้น สวมทับด้วยเสื้อโค้ทสีน้ำตาลมอคค่า วิกตอเรียมักใส่ถุงน่องสีดำรัดรูปที่ทำให้เรียวขาของหล่อนดูกระชับ รองเท้าที่วิกตอเรียจะใส่กับชุดแบบนี้คือรองเท้าบูทส้นเข็มสีดำ ที่เสริมให้เธอดูสง่างามมากยิ่งขึ้น

        

Credit ::   Dress   Beauty

สัญลักษณ์Heal :: วิกตอเรียมีสัญลักษณ์ของฮีลปรากฎที่บริเวณต้นขาอ่อน



(ตำแหน่งตามรูปดอกกุหลาบค่ะ)


ลักษณะนิสัย :: วิกตอเรียเป็นบุตรีของเศรษฐีในเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ ประเทศของเหล่าผู้ดี หล่อนจึงได้รับการบ่มเพาะและสั่งสอนมารยาทมาเป็นอย่างดีทำให้เธอ เป็นกุลสตรีชั้นสูงคนหนึ่ง วิกตอเรียรักความเป็นระเบียบเรียบร้อยของทุกสิ่ง และถือว่ากฎคือสิ่งที่ควรยึดมั่นเป็นแบบประพฤติปฏิบัติตามสูงสุด วิกตอเรียฉลาดมากจนเรียกได้ว่าอัจฉริยะ การันตีได้จากรางวัลการแข่งขันทักษะทางวิชาการตั้งแต่อนุบาลจนจบปริญญาเอกของเธอหล่อนจบปริญญาสามใบตั้งแต่อายุสิบหกปี จบดอกเตอร์ในวัยเพียงยี่สิบเอ็ดปี วิกตอเรียจบด้านการบริหารธุรกิจ เธอจึงบริหารบริษัทได้ดี วิกตอเรียเป็นเชื่อว่าเธอเป็นที่หนึ่งเสมอ หล่อนรอบคอบใจเย็นและอดทน เพราะความสมบูรณ์แบบต้องใช้เวลา ถึงแม้ว่าวิกตอเรียจะฉลาดและมีความรอบคอบแค่ไหน เธอไม่สามารถตามเล่ห์ของคนแสนเจ้าเล่ห์ราวกับสุนัขจิ้งจอกได้ทัน หล่อนไม่ชอบคนที่เจ้าเล่ห์ มันน่ารำคาญในความคิดของเธอ ที่สำคัญวิกตอเรียเป็นคนที่ ตรงต่อเวลามาก โดยปกติแล้วเหล่าผู้ดีอังกฤษจะให้ความสำคัญกับเวลามากเป็นพิเศษอยู่แล้ว ไม่แปลกใจนักว่าทำไมหากคุณนัดกับวิกตอเรียที่ร้านคาเฟ่ตอนเก้าโมงครึ่ง คุณจะเห็นหล่อนได้ตั้งแต่เก้าโมง วิกตอเรียมักจะมาก่อนเวลานัดสิบห้าถึงสามสิบนาที วิกตอเรียเป็นบุคคลหนึ่งที่น่าคบค้าสมาคมด้วย แต่ไม่น่าไว้วางใจ ความฉลาดของเธอยังเจือปนกลโกงเล็กๆน้อยๆ รวมถึงเธอมีวาทศิลป์ที่ดีโน้มน้าวจิตใจคู่สนทนาให้มีความคิดเปลี่ยนไปตามที่เธอต้องการ วิกตอเรียยังมีความฉลาดทางอารมณ์ที่สูงมากพอๆกับความฉลาดทางสติปัญญาของเธอ หล่อน เก็บอารมณ์เก่ง การที่คุณจะได้เห็นเธอโกรธหรือฟิวส์ขาดนั้นแทบเป็นศูนย์ หล่อนมีความอดทนในทุกเรื่องสูงมากเนื่องจากหล่อนเป็นคนเก็บอารมณ์เก่งและใจเย็นแม้ว่าจะโดนแกล้งจากเพื่อนร่วมงานหรือที่เธอกำลังปฏิบัติภารกิจเกมฮีลเลิฟ บลูเบล เด็กในสังกัดของเบียคุรันคาดว่าเป็นภรรยาเอก(?)กลั่นแกล้งเธอ วิกเตอเรียไม่ได้ถือสาออกจะสงสารด้วยซ้ำ'เธอยังเด็กนักที่หลงรัก ปีศาจสีขาว บลูเบล'  การที่จะอดทนเพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์สูงสุดเป็นเรื่องที่ง่ายแสนง่ายสำหรับวิกตอเรีย  นอกจากนี้วิกตอเรียมีนิสัยเสียที่แก้ไม่ได้ หล่อนเห็นแก่ตัวไม่แยแสใครนอกจากตัวเอง ใครที่มองดูภาพลักษณ์ของเธอเพียงแค่ภายนอกแล้วบอกว่าเธอใจดี พวกเขาพลาดแล้วล่ะ ถ้าถามว่าตั้งแต่เกิดมา วิกตอเรียเคยเห็นประโยชน์ของใครมากกว่าตัวเธอเองไหม หล่อนจะยิ้มและตอบกลับมาอย่างสุภาพว่า
"แล้วคุณคิดว่าดิฉันเป็นคนอย่างไรล่ะคะ" นั่นถือเป็นสัญญาณอันตรายอย่างหนึ่งที่เธอเตือนคุณประมาณว่า 'อย่าอยากรู้มาก ถ้าอยากรู้จริงๆระวังจะตายไม่ดี...' อีกอย่างคือหล่อนเป็นคนที่ค่อนข้างโหดร้ายพอสมควร วิกตอเรียอาจจะไม่เก่งด้านการต่อสู้หรือใช้กำลังแต่ถ้าเป็นเรื่องวางแผนหรือการทำลาย สิ่งนี้แหละที่หล่อนโปรดปราน เธอโหดร้ายด้วยการยืมมือคนอื่นให้มือของเธอสะอาดบริสุทธิ์ปราศจากมลทิน วิกตอเรียรักความสบาย เกลียดความยากลำบาก หล่อนเชื่อว่า เงินซื้อได้ทุกอย่าง วิกตอเรียเห็นเงินมีค่ามากที่สุดในชีวิตของเธอ หล่อนจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มันมา โดยไม่เลือกวิธีการใดๆทั้งสิ้น ยกเว้นแต่แลกมาด้วยศักดิ์ศรีของเธอ เพราะหล่อนได้รับการอบรมจากทางบ้านว่า "เกียรติยศ ศักดิ์ศรี เป็นสิ่งที่เราต้องรักษาไว้เท่าชีวิต"  แต่วิกตอเรียนั้นไม่ได้หน้าเงิน หรือทำทุกอย่างโดยไร้เหตุผล เธอมักหาเหตุผลมารองรับการกระทำของเธอเสมอฟังดูอาจจะเป็นข้ออ้าง หรือข้อแก้ตัวแต่จากความฉลาดเป็นกรดของเธอย่อมพลิกคำพูดนั้นให้กลายเป็นเหตุผลที่ฟังดูดีจนไม่มีใครโต้แย้งได้เธออ้างอิงหลักการทางวิชาการต่างๆอย่างแนบเนียนแม้กระทั่งถึงวัยทำงานตอนที่เธอโกงเงินของบริษัทไปหลายสิบล้านยังไม่มีใครจับเธอได้เลย!

ประวัติ :: ที่มาของการเล่นเกม♤ วิกตอเรีย เจนิส โคล คุณหนูผู้ตกอับแห่งเมืองลอนดอน ธุรกิจทางบ้านล้มละลายบิดาฆ่าตัวตายทิ้งหนี้สินมากมายไว้ให้เธอ กับมารดารับผิดชอบ เดิมทีมารดาของเธอเป็นอนุภรรยา แต่เมื่อภรรยาหลวงเสียชีวิตไป บิดาได้นำพวกเธอเข้ามาอยู่ในบ้านใหญ่ วิกตอเรียต้องทนคำพูดดูถูกของญาติผู้ใหญ่ทางฝ่ายบิดา แต่เธอไม่ได้แยแสคนพวกนั้นด้วยซ้ำ วิกตอเรียเชื่อว่าเธอสามารถลบคำสบประมาทพวกนั้นด้วยความสามารถของเธอ ชีวิตของวิกตอเรียไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแม้เธอจะพิสูจน์ความสามารถให้ทุกคนได้ประจักษ์แก่ตา จู่ๆบริษัทยักษ์ใหญ่ของบิดาหุ้นตกฮวบ สุดท้ายก็ล้มละลาย วิกตอเรียค่อนข้างตกใจ ต่างจากมารดาของเธอที่ตั้งแต่ได้เห็นข่าวก็ช็อคไปเสียแล้ว คนในตระกูลโคลพากันตีตัวออกห่างพ่อของเธอทั้งที่แต่ก่อนมาประจบเลียแข้งเลียขาไม่ขาดสาย นั่นเป็นเหตุผลที่เธอไม่เคยไว้ใจใครนอกจากตัวเอง โชคดีที่วิกตอเรียฉลาดมากพอที่จะใช้อำนาจของบิดาที่ยังพอเหลืออยู่ในวงการธุรกิจให้เป็นทางรอดของตัวเอง เธอเจรจาต่อรองเล็กๆน้อยๆ วิกตอเรียต้องทำงานสะสางหนี้ของบิดาพร้อมกับเรียนในระดับอุดมศึกษา ขณะนั้นเธอมีอายุสิบหกปีเพียงเท่านั้น! ส่วนมารดาผู้ให้กำเนิดกลายเป็นผู้วิกลจริต หลังจากงานศพของบิดา วิกตอเรียไม่ได้สงสารเธอสักนิด เธอทำหน้าที่ลูกที่ดีเพียงแค่จ้างพยาบาลส่วนตัวให้มารดาและส่งเงินให้หล่อนใช้ทุกเดือน  บทเรียนครั้งสำคัญทำให้วิกตอเรียเห็นเงินเป็นพระเจ้า เธอยอมทำทุกวิธีการเพื่อให้เธอได้มาซึ่งเงิน เงินที่สามารถซื้อทุกสิ่งและเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้ วิกตอเรียทำงานใช้หนี้ในส่วนที่เหลือเกือบหมดจากการทำงานอย่างหนักของเธอกับสมองไอคิวเฉียดหนึ่งร้อยแปดสิบ ความฉลาดนั้นเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เธอเอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์ วิกตอเรียโกรธมากเมื่อเจ้าหนี้ที่เป็นชายชราบนศีรษะไร้ซึ่งเส้นผมมาทวงดอกเบี้ยส่วนที่เหลือจากเธอ ถ้าเธอไม่จ่ายด้วยเงินก็ต้องจ่ายด้วยร่างกาย
'บ้าเอ๊ย ไอ้หมูตอน ถ้าจะให้ฉันไปนอนกับแกฉันขอตายดีกว่า!' วิกตอเรียคิดในใจ สิ่งที่ทำได้คือได้เพียงแค่ยิ้มและปฏิเสธวิธีการใช้หนี้ที่เขาเสนออย่างสุภาพ แบบกุลสตรีทั่วไปพึงมี วิกตอเรียค้นหาข้อมูลการสมัครงานที่ได้ค่าตอบแทนสูง รวมถึงการเล่นเกมต่างๆจนเธอไปเจอเข้ากับ 'เกม Heal love' เกมที่หล่อนคิดว่ามันง่ายไปไหม กับการแค่ไปเยียวยาจิตใจของผู้ชาย วิกตอเรียมั่นใจว่าเธอทำได้ สมองคำนวณผลประโยชน์ที่เธอจะได้รับและอ่านรายละเอียด คำชี้แจงทุกข้อ หล่อนกรอกและส่งใบสมัครรอคำตอบรับจากบุคคลที่เป็นเจ้าของเกม
การทำงาน♧ ปัจจุบันหล่อนเป็นที่ปรึกษาพิเศษบริษัท VARIA บริษัทยักษ์ใหญ่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตยานยนต์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ทรงอิทธิพลอันดับที่สามในประเทศ เบื้องหลังความสำเร็จของบริษัทแห่งนี้มาจากเธอ 45% วิกตอเรียจึงมีฐานะเทียบเท่ารองประธานบริษัทเลยทีเดียว วิกตอเรียเป็นสาว Working woman บ่อยครั้งที่เธอขอทำหน้าที่นอกเหนือจากการเป็นที่ปรึกษา ซึ่งไม่มีใครคัดค้าน ผลงานทุกชิ้นของวิกตอเรียได้กำไรเกินคาดและประสบความสำเร็จทุกครั้ง หุ้นส่วนคนสำคัญของบริษัทถึงกับเอ่ยในที่ประชุมว่า " ถ้าผมไม่ทราบมาก่อนว่าคุณวิกตอเรียเป็นที่ปรึกษาพิเศษผมคิดว่าคุณคงเป็นประธานบริษัทตัวจริง " ปัจจุบันมีบริษัทบริษัทหลายบริษัทพยายามจะติดต่อเธอ แต่จะมีเสียงผู้ชายตะโกนมาในสาย " ไม่ได้ โว้ยยย " และเสียงทะเลาะกันตามมา "นี่ สควอโล่! คุณจะเสียมารยาทเกินไปแล้วนะ ตู๊ด.." สายนั้นโดนตัดไป..
เงินเดือนที่วิกตอเรียได้รับขึ้นอยู่กับงานที่หล่อนทำในเดือนนั้น กับกำไรของบริษัท 
ปกติ 150,000 / เดือน บวกโบนัส 25,000 บาท
ทำ OT(?) 200,000 / เดือน บวกโบนัส 30,000 บาท 
หนี้ปัจจุบัน :: 15,000,000 [ ดอกเบี้ย / เงินค้ำประกันที่พ่อของเธอไปค้ำให้ญาติ ]

ความรัก♡ แน่นอนว่าวิกตอเรียเป็นผู้หญิงที่งดงามมากคนหนึ่ง การที่จะมีเหล่าชายหนุ่มเข้ามาเกี่ยวพันนั้นเป็นเรื่องธรรมดา หนึ่งในนั้นคือ เเซนซัส ประธานบริษัท VARIA ที่เธอทำงานด้วย วิกตอเรียไม่ค่อยประทับใจในตัวเขาเท่าไหร่แม้จะมี คุณลุซซุยเรีย แผนกการตลาดเข้ามาอวยบ่อยๆ หล่อนคิดว่าแซนซัสชอบเธอเพราะเธอดูสุภาพและฉลาด ไม่งี่เง่าเหมือนผู้หญิงคนอื่น แซนซัสสุภาพ และให้เกียรติเธอมากกว่าผู้หญิงคนอื่นในบริษัท วิกตอเรียทราบว่าเขาคิดและหวังอะไรแต่เธอปฏิเสธเขาอย่างสุภาพ สควอโล่รองประธานบริษัทโทรมาโวยวาย ว่าหล่อนหักอกประธานบริษัทแบบนั้นเดี๋ยวก็โดนไล่ออก วิกตอเรียไม่กลัวเพราะเธอทราบดี ที่งานบริหารมันดีขนาดนั้นมันเป็นเพราะเธอ แซนซัสทำ 55% ก็จริง แต่หล่อนก็ทำไม่น้อยไปกว่าเขา ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและแซนซัสตอนนี้อยู่ในฐานะเพื่อนทำธุรกิจที่เชื่อใจกันได้มากกว่าจะเป็นคนรักกัน "บางครั้งฉันคิดว่าเราเหมือนกันจนน่ากลัว เราเป็น ผู้ล่า เหมือนกันยังไงล่ะคะ " หญิงสาวพูดปฏิเสธชายหนุ่มตรงหน้า ชายหนุ่มหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง "คุณฉลาดเสมอ วิกตอเรีย แน่นอนว่าผมเป็นผู้ล่า :) " เขาตอบหล่อนกลับมา วิกตอเรียยกยิ้ม " แล้วฉันจะตั้งหน้าตั้งตารอดู เหยื่อ ของคุณนะคะ แซนซัส " บทสนทนาจบลงเพียงแค่นั้น การหลอกลวงสิ้นสุดแล้ว..

สิ่งที่ชอบ :: การอ่านหนังสือปรัชญา หรือ จิตวิทยา วิกตอเรียนั้นถือเป็นหนอนหนังสือคนหนึ่งหากหล่อนได้จับหนังสือแล้วล่ะก็ เปรียบเสมือนว่าหล่อนกำลังเข้าชาญ ไม่มีสิ่งรบกวนใดทำให้เธอละความสนใจจากหน้ากระดาษได้ ยกเว้นผู้ชายผมสีขาวที่ชอบมากวนเธออ่ะนะ...
"กรุณาเลิกรบกวนดิฉันได้แล้วนะคะ คุณเบียคุรัน" หญิงสาวผมบลอนด์พยายามยิ้มอย่างเป็นมิตรอย่างสุดชีวิต มือเรียวของเธอกำหมัดแน่น ผู้ชายคนนี้น่ารำคาญชะมัด! 
                    


สิ่งที่เกลียด :: แมลงสาบ สิ่งมีชีวิตที่น่าขยะแขยงที่สุดในชีวิตของวิกเตอเรีย ถ้าเธอเจอแมลงสาบล่ะก็.... เธอจะนิ่งเงียบแสร้งไม่รู้สึกอะไรทั้งสิ้น ทั้งที่ในใจอยากจะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มันให้หมด! 

สิ่งที่กลัว :: สิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตของวิกตอเรียไม่ใช่สัตว์มีพิษแต่เป็นสัตว์ที่น่าขยะแขยง มันมีปีกที่จะ Landing ลงได้ทุกที่มันคือ'แมลงสาบ' สัตว์ที่มักจะอยู่ตามที่สกปรก วิกตอเรียจะหน้าซีด ร่างกายของเธอจะสั่นกลัวราวกับเจ้าเข้า ปากของเธอฟันจะกระทบกันตลอดเวลา วิกตอเรียจะตัวแข็ง เธออยากจะหนีมัน แต่ก็หนีไม่ได้ 
"......." วิกตอเรียไม่มีคำพูดใดออกจากปาก สิ่งมีชีวิตสีน้ำตาลมีปีก landing ลงบนชามก๋วยเตี๋ยวของเธออย่างงดงาม วิกตอเรียอยากจะกรี๊ดดังๆแต่เธอทำไม่ได้ ทั่วทั้งร่างกายของเธอแข็งไปหมด ขยับไม่ได้เลย!

ลักษณะการพูด :: วิกตอเรีย จะพูดสุภาพตลอดเวลา หญิงสาวชาวอังกฤษคนนี้จะรักษาภาพพจน์เป็นกุลสตรีตลอดเวลา หล่อนแทนตัวเองว่า ฉันเป็นส่วนใหญ่ คำว่า ดิฉันนั้น จะใช้ในโอกาสเป็นพิธีการหรือเคารพญาติผู้ใหญ่ 

"ดิฉันวิกตอเรีย เจนิส โคล รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเชิญให้มาพูดบนเวทีนี้ ขอเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านร่วมเป็นสักขีพยานของคู่บ่าวสาว.." เมื่อวิกตอเรียพูดจบ มือเรียวที่จับแก้วไวน์อยู่ยกขึ้นเหนือศีรษะ พร้อมกับนำมันจรดที่ริมฝีปากลิ้มรสชาติของไวน์ชั้นเยี่ยมของRomanee Conti DRC 1990 ไวน์ราคาแพงสูงลิบที่นานๆทีหล่อนจะมีโอกาสได้ลิ้มรส!

"กรุณาออกห่างจากดิฉันด้วยค่ะ หญิงสาวกับชายหนุ่มใกล้ชิดกันโบราณว่ามันไม่งามนะคะ" หญิงสาวปั้นยิ้มอย่างเสแสร้งให้ชายหนุ่มตรงหน้า วิกตอเรียหมายมั่นปั้นมือไว้แล้วว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตามเธอจะไม่หลงกลเขาอีกเป็นครั้งที่สอง!

"รบกวนช่วยดูเอกสารตรงนี้นะคะ แล้วก็คุณเบียคุรัน ช่วยจริงจังกับงานให้มากกว่านี้ได้ไหมคะ" วิกตอเรียมองชายหนุ่มที่กำลังแกะถุงมาชเมลโล่ห่อใหญ่ด้วยความเอือมระอา ให้ตายสิชาตินี้เธอจะได้ทำตามแผนที่วางไว้หรือเปล่าเนี่ย!

"ถ้าหากว่าแข่งกันบอกรักโดยไม่มีความรู้สึกรัก
ฉันก็ชนะค่ะ " หญิงสาวผมบลอนด์เอ่ยตอบกับคนตรงหน้าอย่างฉะฉาน ทำให้หญิงสาวตรงหน้าชะงักไปชั่วครู่แล้วเปล่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างถูกใจ

"ฉันรักเงินของคุณ แต่ไม่ได้รักคุณ" หญิงสาวกระซิบข้างหูของเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแต่ถ้อยคำที่เปล่งออกมานั้นมันช่างตรงข้ามกับน้ำเสียงเหลือเกิน

ความสามารถพิเศษ :: หมากรุก (หมากรุกที่พวกเราเคยเล่นในคอมนี่แหละค่ะ วิกตอเรียเล่นค่อนข้างเก่งมากๆ) , โชหงิ(หมากรุกญี่ปุ่น ไม่ต้องแปลกใจนะคะว่าทำไมวิกตอเรียถึงเล่นเป็น หล่อนสรรหาเกมสารพัดอย่างที่เกี่ยวกับการใช้สมองมาเล่นค่ะ) , เซียนโกะ ( อันนี้ของเด็ดเล่นยากมาก เรียกภาษาบ้านๆหมากล้อมค่ะ อันนี้เขาถือว่าใครเล่นเก่งคืออัจฉริยะค่ะ เพราะมันเล่นยากมาก วิกตอเรียที่ฉลาดเป็นกรดยังเล่นแค่พอใช้ได้ //อันที่จริงเธอเพิ่งเล่นมาไม่นาน )

เพิ่มเติม :: - วิกตอเรีย เคยได้รับอุบัติเหตุตกเรือเมื่อตอนอายุสิบสี่ปีแต่เธอไม่กลัวหรือเกลียดน้ำนะคะแค่ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่ขอลงเล่นน้ำหรือไปเที่ยวทะเลถ้าไม่จำเป็น รูปตอนที่หล่อนใส่ชุดว่ายน้ำเป็นตอนเดียวที่จมน้ำค่ะ

คุยกับวิกตอเรีย เจนิส โคล 

"เชิญเข้ามาได้"หญิงสาวเกศาสีดำราตรี และดวงตาสีท้องฟ้า อยู่ในชุดเดรสสีขาวสะอาดฟูเล็กน้อยยาวเลยเข่า คลุมทับส่วนบนด้วยเสื้อกันหนาวสีดำ เพราะอากาศในห้องทำงานนี้อย่างกับตู้เย็นช่องฟรีซ เธอกล่าวหลังจากเสียงเคาะประตูห้องทำงานได้ดังขึ้น
  ข้างๆนั้นคือหญิงสาวผมสีเงินยาวมัดรวบไว้ข้างหลัง ดวงตาสีครามดั้งท้องทะเล เธออยู่ในชุดสูทสีดำ หน้าติดจะหล่อเหล่ามากกว่าหวานเช่นสตรี  กำลังยืนท้าวแขนกับเก้าอี้
   วิกตอเรียมองหญิงสาวทั้งสองคนอย่างประเมิน บรรยากาศในห้องนี้หนาวจนเธอต้องกอดอกเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย
"เชิญนั่ง"เธอผายมือไปทางเก้าอี้ว่างๆข้างหน้าตน
วิกตอเรีย ก้าวเท้าอย่างยากลำบาก ขาของเธอแข็งหมดแล้ว! 
"ขอบคุณค่ะ" ทันทีที่ได้นั่ง หล่อนกล่าวขอบคุณตามมารยาทที่สมควรพึงกระทำ
หญิงสาวพลิกดูใบเอกสารบนโต๊ะทำงานที่เป็นระเบียบของเธอ เพื่อดูข้อมูลเพลย์เยอร์ข้างหน้าตน
"สวัสดี เธอคือวิกเตอเรียสินะ"
"สวัสดีค่ะ ฉันวิกตอเรีย เจนิส โคล คุณ?" วิกตอเรียแนะนำตัวเองอย่างมีมารยาท เธอเว้นช่วงให้ผู้หญิงทั้งสองคนตอบเธอ แต่....
"ฉันไม่มีความจำเป็นต้องบอกชื่อให้เธอรู้ แต่เธอต้องเรียกฉันว่า ควีน"เธอยิ้มเจ้าเล่ห์เล็กน้อย
"ส่วนฉัน เรียกว่า คิง ละกันนะ" หล่อนพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบเหมือนดังธารน้ำแข็ง
"ยินดีที่ได้รู้จัก พวกคุณทั้งสองค่ะ" วิกตอเรียฉีกยิ้มมารยาทอย่างใจเย็น เธอฉลาดพอที่จะตามเกมของพวกเขาทัน แม้จะรู้สึกไม่สบอารมณ์ที่พวกเขาไม่ได้บอกชื่อตามมารยาท
"เข้าสู่คำถาม ทำไมเธอถึงเลือกที่จะเล่นเกมนี้"หญิงสาวจ้องมองคู่สนทนาตรงๆด้วยแววตาจริงจัง
"นั่นสิน่า ทำไมกัน" หญิงสาวอีกคนหนึ่งถามเหมือนยั่วโมโหอีกฝ่าย
"จะให้ตอบแบบตรง หรืออ้อมค้อมดีล่ะคะ ถ้าแบบตรงคือฉันต้องการเงินค่ะ" วิกตอเรียยกยิ้มมุมปากที่เป็นรอยยิ้มการค้า ใช่ หล่อนสนใจเงินจำนวนมหาศาลที่จะได้จากการเล่นเกมที่แสนง่ายและธรรมดา ถ้าแข่งกันบอกรักโดยไม่มีความรู้สึกเธอก็ชนะ 
"งั้นหรอ หึ เกมนี้ต้องใช้ความอดทนและความพยายามสูงเลยนะ เธอคิดว่าเธอจะทำได้งั้นรึ สาวน้อย"เธอแสยะยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยและฟังคำตอบของอีกฝ่าย
"เด็กอย่างเธอนะจะเล่นเกมนี้ได้อย่างนั้นเหรอแม่หนู" เธอยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา
"ด้วยเกียรติของ วิกเตอเรีย เจนิส โคล ไม่มีอะไรที่ดิฉันไม่สามารถทำไม่ได้ค่ะ" วิกตอเรียยืนขึ้นถอนสายบัวอย่างงดงาม ราวกับราชนิกูลผู้สูงส่งที่จะไม่มีวันผิดสัตย์สาบานที่ตนให้ไว้เด็ดขาด 
"ดี อย่าลืมละแค่ช่วยเยียวยาจิตใจพวกเขา เธอห้ามรักพวกเขา เพราะถ้ารัก เกมนี้จะจบลงทันที"
"เกมนี้จบลงทันทีเมื่อไร ถึงตายเลยนะ"
"ดิฉันไม่เคยกลัวความตาย ความหลอกลวงต่างหากที่น่ากลัวที่สุด" หญิงสาวตอบอย่างมั่นใจ หล่อนจ้องมองที่คิงและควีน ที่ไม่แสดงสีหน้าใดๆนอกจากใบหน้าเรียบเฉย 
"หึ ขอบคุณสำหรับคำถาม ออกไปได้แล้วละ"ควีนละสายตาจากคู่สนทนาแล้วเปลี่ยนกระดาษหน้าต่อไป
"แล้วหวังว่าเราจะไม่ได้พบกันเร็วๆนี้"
"ดิฉันก็เช่นกันค่ะ หวังว่าคุณจะยังอยู่รอให้ดิฉันรับค่าจ้างนะคะ" วิกตอเรีย เอ่ยคำพูดบอกลาที่กวนประสาทไว้เล็กน้อยก่อนหันหลัง เดินออกจากเคฤหาสน์หลังใหญ่ โดยที่เธอไม่ได้สังเกตุรอยยิ้มของคิงและควีนที่แสยะยิ้มให้เธออย่างสมเพช


คุยกับผปค.

"สวัสดีค่ะ ไรต์ล่องแล่งกับBlackค่ะ"
"สวัสดีค่ะ ฉันเป็นขุ่นแม่ของวิกตอเรีย 
ชื่อเอสค่ะ <3" หญิงสาวเรือนผมสีดำแย้มยิ้มอย่างอรมณ์ดีให้หญิงสาวสองคนตรงหน้า

"ถ้าลูกๆติดแล้วท่านผปค.หายตัดออกเลยนะคะ"
" กฎข้อนี้ฉันทราบดีค่ะ " หญิงสาวตอบด้วยเสียงเรียบนิ่ง และสบายๆ

"หลังจากประกาศผล ให้มารายงานตัวภายใน3วันนะคะ"
" รับทราบค่ะ " หญิงสาวยิ้มรับคำหนักแน่น แววตาของเธอเป็นประกายคาดหวัง

"ถ้าลูกท่านไม่ติดจะว่าอะไรไรต์ทั้ง2ไหมค่ะ"
"ดิฉันไม่ว่าอะไร แต่คงเสียใจมาก แง ลูกสาวต้องหายไปอีกแล้ว//กัดผ้าเช็ดหน้า" ใบหน้าของหล่อนเริ่มมีน้ำตา แต่นั่นก็แค่เสแสร้งล่ะนะ

"ถ้าลูกท่านไม่ติดจะรับกลับหรือยัดในบทอื่นค่ะ"
" อุตส่าห์เขียนยาวขนาดนี้ตัวประกอบก็ยอมค่ะ //กอดขาอ้อนวอนส่งสายตาวิ้งค์ๆ" หญิงสาวสองคนยิ้มแหยๆ พวกหล่อนพยายามแกะมือปลาหมึกของผู้ปกครองคนนี้

"ขออนุญาติต้มยำทำแกงลูกท่านนะค่ะ"
" เต็มที่เลยค่ะ แอ่ก อย่าปาหนังสือใส่ขุ่นแม่สิคะลูก" ไรท์เตอร์สาวทั้งสองมองเหตุการณ์ไล่ฆ่าของลูกสาวและผู้ปกครองอย่างตกใจปนขบขัน

"ขอบคุณสำหรับการตอบคำถามค่ะ"
"มะ ไม่เป็นไรค่ะ ช่วยฉันด้วยก็ดีนะคะ " หญิงสาวที่หนีลูกสาวตัวเองหัวซุกหัวซุน เอ่ยตอบพวกหล่อนก่อนกลับไปเล่นวิ่งไล่จับ(?)กับลูกสาวอีกครั้ง